Koenigsegg Gemera ไฮเปอร์คาร์ 4 ที่นั่งคันแรกของโลก

“เคอนิกเส็กก์ เกเมร่า เมกา จีที” (Koenigsegg Gemera Mega-GT) ถูกเปิดตัวขึ้นภายหลังจากเจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย (ในเครือชาริช โฮลดิ้ง) ได้รับการแต่งตั้งจากเคอนิกเส็กก์ ออโตโมทีฟ เอบี ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งเป็นแบรนด์รถไฮเปอร์คาร์สมรรถนะสูงสัญชาติสวีเดน แบบ 4 ที่นั่งคันแรกของโลก โดยทุกรายละเอียดองค์ประกอบจะต้องทำงานร่วมกันอย่างลงตัวเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุดทุกขั้นตอน

ตั้งแต่การผลิตโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ไปจนถึงการตกแต่งภายในที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันด้วยมือ รถทุกคันจึงเปรียบดั่งงานศิลป์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ สร้างขึ้นตามมาตรฐานสูงสุดของแบรนด์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกรายละเอียดขณะที่ความล้ำสมัยทางนวัตกรรมก็เป็นที่ขึ้นชื่อ โดยช่วงหลายปีที่ผ่านมาแบรนด์เดินหน้าเปิดตัวและจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้เห็นการทำลายสถิติโลกอย่างต่อเนื่องในรถหลากหลายรุ่น

การออกแบบเพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ด้วยที่นั่งรองรับสรีระของผู้ใหญ่ได้ถึง 4 ที่นั่งด้วยเบาะปรับไฟฟ้าแบบ 4 ทิศทางในด้านหน้าและถูกเสริมด้วยเมมโมรี่โฟม เพื่อรองรับสรีระผู้โดยสารให้สบายยิ่งขึ้นทั้ง 4 ที่นั่งนอกจากนี้ผู้โดยสารทั้ง 4 ที่นั่งสามารถควบคุมระบบเครื่องเสียงความบันเทิง และระบบปรับอากาศได้ด้วยตัวเองพร้อมทั้งยังมีช่องเก็บสัมภาระของแต่ล่ะที่นั่งเพื่อเป็นสัดส่วนอีกด้วย และยังเก็บกระเป๋าสัมภาระขนาดย่อมๆได้ถึง 4 ใบ รวมทั้งมีที่วางแก้วถึง 8 จุด ที่มีระบบอุ่นร้อนหรือระบบความเย็นจอแสดงผลข้อมูลต่างๆ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จุดชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ระบบแอปเปิ้ลคาร์เพลย์ ลำโพง 11 จุด และระบบเบาะปรับด้วยไฟฟ้าช่วยให้ทุกการเดินทางเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย

อย่างไรก็ตาม หัวใจหลักของเกเมร่าคือเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ เทอร์โบคู่ ขนาด 2.0 ลิตร ที่มีชื่อเรียกว่า “Tiny Friendly Giant(TFG)” มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 3 มอเตอร์ ให้กำลังสูงสุดถึง 1,700 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 3,500 นิวตัน-เมตร ช่วยให้ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 1.9 วินาทีเท่านั้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ด้านเทคโนโลยีช่วยเหลือในการขับขี่ได้ติดตั้งทั้งระบบเลี้ยวล้อหลังและระบบกระจายแรงบิดเพื่อควบคุมที่ฉับไวและมั่นใจยิ่งขึ้นเพื่อให้ผู้ขับขี่พร้อมเผชิญทุกสภาพถนน นอกจากสมรรถนะเครื่องยนต์ที่เร้าใจแล้วยังสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวด้วยความเร็วสูงสุดถึง 300 กม./ชม. และขับได้ระยะทางสูงสุด 50 กม. เมื่อต้องการเดินทางโดยปราศจากมลพิษหรือขับเคลื่อนในรูปแบบไฮบริด ขณะเดียวกันยังออกแบบมาให้รองรับน้ำมัน E85 ได้ หากต้องใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูงสุด และมีพิสัยเดินทางไกลสุดถึง 950 กมคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. เนื่องจากเกเมร่าถูกออกแบบด้วยแนวคิดการใช้งานที่ครอบคลุมทั้งการใช้ในเมืองด้วยความเร็วต่ำและขับขี่บนทางหลวงด้วยความเร็วสูง

ระบบความปลอดภัยตั้งแต่โครงสร้างตัวถังแบบ Carbon Fiber Monocoque ถุงลมนิรภัย 6 ใบ ระบบช่วยเหลือการทรงตัวระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบเบรกเอบีเอส และระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS 2.5 ยิ่งไปกว่านั้นยังมีจุดยึด ISOFIX เบาะหลังทั้ง2 ที่นั่งอีกด้วย

ดีไซน์ภายนอกออกแบบประตูใหม่ที่เรียกว่า “KoenigseggAutomated Twisted Synchrohelix Actuation Doors (KATSAD)” เปิดได้กว้างพอที่ผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลังสามารถเข้ารถไปได้พร้อมๆกัน ทั้งยังคงรูปลักษณ์แบบรถสปอร์ต 2 ประตู บริเวณด้านบนประตูติดตั้งกล้องที่แสดงภาพของรถด้านหลัง ซึ่งเป็นครั้งแรกของเคอนิกเส็กก์ ที่นำมาใช้บนรถแทนกระจกมองข้างทั่วไป

ล้อขนาด 20 นิ้ว และ 21 นิ้ว ผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ล้วนๆ มีน้ำหนักไม่ถึง 9 กิโลกรัมต่อล้อ ด้านท้ายติดตั้งท่อไอเสียจาก Akrapovic ที่เพิ่มความดุดันทั้งด้านรูปลักษณ์และซุ้มเสียงของเครื่องยนต์ที่คำรามพร้อมจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้า สำหรับคนที่เป็นเจ้าของในโลกนี้จำกัดเพียง 300 คนเพราะผลิตแค่ 300 คัน เมืองไทยมีโควต้า 6 คัน สนนราคาอยู่ที่ 3.298 ล้านยูโร หรือประมาณ122 ล้านบาท.

By admin

Related Post