นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.10 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงหนัก” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.71 บาทต่อดอลลาร์
ราคาทองวันนี้ (14 ก.พ.2567) เปิดตลาด "ลง 150 บาท" ตามตลาดต่างประเทศ
สมาคมธนาคารฯ ยืนยัน ไม่มีการใช้เสียงในการยืนยันตัวตนเพื่อโอนเงิน
โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงต่อเนื่องตามที่เราได้ประเมินไว้ว่า เงินบาทเสี่ยงจะผันผวนอ่อนค่าทดสอบโซน 36.15 บาทต่อดอลลาร์ หากอ่อนค่าทะลุระดับ 36.00 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในช่วง 35.66-36.10 บาทต่อดอลลาร์)
โดยเงินบาทอ่อนค่าลง ตามการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทะลุระดับ 4.20% หลังอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด จนทำให้ผู้เล่นในตลาดประเมินว่า เฟดอาจเริ่มลดดอกเบี้ยได้ในการประชุมเดือนมิถุนายน ซึ่งช้ากว่าที่ตลาดเคยมองไว้ในการประชุมเดือนพฤษภาคม
สำหรับวันนี้ ประเมินว่า ไฮไลท์สำคัญที่ผู้เล่นในตลาดจะจับตา คือ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งยุโรป ทั้งอัตราเงินเฟ้อ CPI ของอังกฤษ และ อัตราการเติบโตเศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาสที่ 4 ซึ่งจะส่งผลต่อการปรับมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของทั้งธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB)
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก ทั้ง เฟด, BOE และ ECB เพื่อช่วยในการประเมินทิศทางนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า
แนวโน้มของค่าเงินบาท
การอ่อนค่าของเงินบาททะลุโซนแนวต้านสำคัญแถว 36.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้ปิดฉากเทรนด์การแข็งค่าตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อนหน้าไปได้ ทำให้ในระยะสั้น เรามีมุมมองว่า เงินบาทเสี่ยงที่จะผันผวนอ่อนค่าต่อได้ จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา เช่น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอลงกว่าคาด ทำให้ตลาดกลับมาเชื่อว่า การลดดอกเบี้ยของเฟดยังเกิดในเดือนพฤษภาคมได้
หรือ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของไทยออกมาดีกว่าคาด ลดโอกาสการลดดอกเบี้ยราว 2 ครั้งของธนาคารแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทดังกล่าว ได้เปิดโอกาสให้เงินบาทอ่อนค่าต่อเข้าใกล้โซน 36.15 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งหากโมเมนตัมการอ่อนค่ายังคงไม่อ่อนแรงลง คาดว่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าต่อทดสอบโซนแนวต้านสำคัญ 36.50 บาทต่อดอลลาร์ได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง
เรามองว่า ระดับการอ่อนค่าดังกล่าว ถือว่าเงินบาทได้อ่อนค่าลงจนถูกมาก (Undervalued) ในเชิง valuation และเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาดสามารถทยอย Sell on Rally USDTHB หรือเริ่มสะสมสถานะ Long THB (มองเงินบาทแข็งค่าขึ้นได้)
ด้าน ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 36.10 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ระดับ 35.72 บาท/ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงกว่าคาดในทุกมิติ ทั้ง Headline CPI (รวมหมวดอาหารและพลังงาน) CPI ทั่วไป และ Core CPI แรงกดดันจากเงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้นทะลุ 4.30% รับกับ CPI ที่สูงขึ้นเช่นกัน
นักลงทุนยังคงต้องติดตามการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐที่จะทยอยประกาศออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI), และการผลิตภาคอุตสาหกรรม
เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,217 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 200 ล้านบาท
- * กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ
- USD/THB 35.90 – 36.30
- *แนะนำทยอยซื้อที่ 35.90 /ขาย 36.20
- EUR/THB 38. 50 – 38.95
- *แนะนำทยอยซื้อที่ 38.50/ ขาย 38.85
- JPY/THB 0.2380 – 0.2425
- *แนะนำทยอยซื้อที่ 0.2380 /ขาย 0.2420
- GBP/THB 45.25 – 45.65
- AUD/THB 23.10 – 23.50
เปิดความหมาย "ดอกกุหลาบ" และ 40 ความหมายดอกไม้รับ "วันวาเลนไทน์"
104 แคปชัน-คำอวยพร วาเลนไทน์ 2567 ประโยคเด็ดบอกสถานะ โสด มีคู่ อกหัก
ทำความเข้าใจกฎหมาย “ครอบครองปรปักษ์” ก่อนสูญเสียที่ดินให้คนอื่นไม่รู้ตัว คำพูดจาก สล็อต777